วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ความลับของแสง

สรุป ความลับของแสง


        แสง เป็นคลื่นชนิดหนึ่งเหมือนคลื่นน้ำในทะเลเป็นคลื่นที่มีความยาวคลื่นสั้นมาก แสงเคลื่อนที่ได้เร็วมากตั้ง 300000 กิโลเมตร/วินาที ถ้าเราวิ่งได้เร็วเท่ากับแสงเราจะสามารถวิ่งรอบโลกได้ 7 รอบภายในเวลา1วินาที

การทดลอง

วิธีทำ :   หากนำกล่องใบใหญ่ที่มีฝาปิดเจาะรูข้างกล่อง 1 รู และนำของต่างๆมาใส่ในกล่องหลังจากนั้นปิดฝากล่องและมองเข้าไปในรูที่เจาะไว้ จะเห็นว่ามันมือสนิทจากนั้นค่อยๆเปิดฝากล่องออกจะเห็นวัตถุในกล่อง ลองเจาะรูเพิ่มอีหนึ่งรู แล้วเอาไฟฉายมาส่องไปที่ีรูที่เจาะใหม่เราจะมองเห็นของในกล่อง


สาเหตุ :   ที่เรามองเห็นวัตถุรอบตัวได้นั้นนอกจากแสงต้องส่องลงมาโดนกับวัตถุ แสงยังต้องสะท้อนกับวัตถุเข้ามาสู่ตาของเรา เราถึงมองเห็นวัตถุนั้นได้ซึ่งตาของเรา คือ จอสำหรับรับแสงที่สะท้อนมาจากวัตถุนั่นเอง

ตัวอย่างการทดลอง การเคลื่อนที่ของแสง


คุณสมบัติ :  แสงเดินทางออกมาเป็นเส้นตรงอย่างเดียวและไม่มีการเปลี่ยนทิศทาง วัตถุบางชนิดที่แสงสามารถทะลุผ่านไปได้วัตถุ วัตถุบนโลกเมื่อมีแสงตกมากระทบจะมีคุณสมบัติ 3 แบบ 2 แบบแรกได้แก่ วัตถุโปร่งแสง (translucent objects)  วัตถุโปร่งใส (transparent objects) และ วัตถุทึบแแสง (Opaque object) ส่วนใหญ่วัตถุบนโลกนี้เป็นวัตถุทึบแสง


ประโยนช์ :   การเคลื่อนที่ของแสงที่เป็นเส้นตรงเรานำมาใช้ทำกล้องฉายภาพแบบต่างๆได้

การทดลอง 
ตัวอย่างการทดลอง กล้องรูเข็ม


        ที่ภาพกลับหัวตากต้นแบบ เพราะแสงเดินทางเป็นเส้นตรงผ่านรูเล็กๆอย่างรูกระป๋องภาพที่ได้จึงเป็นภาพหัวกลับ จากนั้นลองเจาะอีกรูจะเห็นรูปซ้อนกัน เพราะว่าแสงส่วนบนของภาพวิ่งเป็นเส้นตรงผ่านรูเล็กๆมาตกกระทบที่ด้านล่างของกระดาษไข และแสงส่วนล่างของภาพวิ่งผ่านตรงรูเล็กๆมาตกกระทบที่ด้านบนของกระดาษไข 


คุณสมบัติ : การสะท้อนของแสง >> ไฟฉายกับกระจกเงา >> แสงจะสะท้อนกลับทิศทางตรงกันข้ามกับทิศทางที่ฉายแสงออกมาเสมอๆ

ประโยนช์ : เงาของเราที่เกิดจากกระจกกระจก เกิดจากการสะท้อนของแสง

ตัวอย่างการเกิดเงา


การทดลอง : ลองใช้กระจกเงาสะท้อนภาพของวัตถุจะเห็นว่ามีเงาเกิดขึ้นแค่ 1 ภาพ จากนั้นเอากระจกเงาอีก 1 บาน มาวางทำมุม 90 องศา กับกระจกเงาบานแรกและนำวัตถุมาวางตรงกลางรอยต่อของกระจกจะเห็นว่ามีภาพของวัตถุเกิดขึ้นเยอะ ถ้าลองบีบมุมของกระจกให้แคบลงอีกจะเห็นภาพของวัตถุมากกว่าเมื่อกี้ ถ้าบีบมุมของกระจกให้แคบลงอีกเงาสะท้อนจะมีมากขึ้นตามไปด้วย ที่เราเห็นภาพในกระจกมากขึ้นนั้นเป็นเพราะมุมในการวางกระจก ยิ่งมุมที่ประกบกันนั้นมีองศาแคบลงเท่าไหร่ภาพที่ปรากฏในกระจกก็จะมากขึ้นเท่านั้น เป็นเพราะว่ากระจกทั้งสองบานต่างสะท้อนภาพกันไปมา

การทดลอง : เรื่องหลักการสะท้อนแสง >> กล้องฮาโรโดสโคป
     
      กระจก 3 บานใช้หลักการสะท้อนของแสงและมุมประกอบกันของกระจก เมื่อแสงตกกระทบในกระบอกทางสามเหลี่ยมและสะท้อนไปสะท้อนมาทำให้เกิดภาพมากมาย หลักการสะท้อนแสงสามารถนำมาใช้ประโยนช์ในการมองหาวัตถุที่ไม่สามารถมองเห็นในที่สูงๆได้ เช่น กล้องส่องภาพเหนือระดับสายตา วิธีนี้นำมาใช้เป็นกล้องส่องดูวัถตุที่อยู่เหนือน้ำของเรือดำน้ำด้วย


ตัวอย่าง กล้องส่องภาพเหนือระดับสายตา



หลักการหักเหของแสง แสงเดินทางผ่านวัตถุหรือตัวกลางคนละชนิดกัน  
ประโยนช์ : สามารถนำมาใช้ประดิษฐ์เลนแบบต่างๆได้ เลน คือแผ่นแก้วหรือแผ่นกระจกที่ถูกทำให้ผิวโค้งนู้นออกมาเพื่อใช้ประโยนช์ในการขยายภาพ


การทดลองเลนรวมเส้นทางเดินแสง เลนนู้นนอกจากจะใช้รวมแสงแล้วเรายังสามารถใช้จุดไฟได้อีกด้วย

เงากับแสง : เงาเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับแสงและเงาเกิดขึ้นได้เพราะแสง
การทดลอง >> การเกิดเงา


เงาเกิดได้หลายแบบ เงาของวัตถุจะเกิดขึ้นได้จากแสงที่เดินทางเป็นเส้นตรงไปเรื่อยๆ เมื่อมีวัถตุเข้ามาขวางทาวงเดินแสงไว้ พื้นที่ด้านหน้าของวัตถุจะดูดกลื้นและสะท้อนบางส่วนมาแต่พื้นที่ด้านหลังของวัตถุแสงส่องไปไม่ถึงต้องเกิดเป็นพื้นที่สีดำ เรียกว่า เงา (shadows)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น