บทความ เรื่อง สอนลูกเรื่องแสงและเงา
(Teaching Children about
Light and Shadow)
- แสง ซึ่งเป็นพลังงานรูปแบบหนึ่งที่สิ่งมีชีวิตรับรู้ได้ด้วยตา
เป็นเหตุให้มองเห็นสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเราได้
- เงา ซึ่งหมายถึง รูปร่างของวัตถุที่แสงผ่านทะลุไม่ได้
ทำให้แลเห็นเป็นเงาตามรูปร่างของวัตถุนั้น
เด็กจะได้เรียนรู้ถึงแหล่งกำเนิดแสง หรือสิ่งที่ปล่อยแสงออกมา ได้แก่
ดวงอาทิตย์ ที่เป็นแหล่งกำเนิดแสงธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุด
สัตว์และพืชบางชนิดมีแสง
การเผาไหม้ของวัตถุบางชนิด เช่น พืช แก๊ส เทียนไข น้ำมัน ฯลฯ
ทำให้เกิดแสง
แสงบางชนิดมนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น เช่น แสงไฟฟ้า ไฟฉาย กล้องถ่ายรูป
ฯลฯ
- แสงจากดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว แสงจากพืชและสัตว์บางชนิด
และแหล่งกำเนิดแสงอื่นๆที่คนเราทำขึ้น เช่น จากการจุดไฟ เปิดไฟฟ้า
เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกและจักรวาล
และเป็นประโยชน์ที่ทำให้คนเราดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะมีแสงสว่างช่วยให้คนเรามองเห็น
และแสงทำให้เกิดเงา ร่มเงาก็เป็นประโยชน์สำหรับสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลาย
ได้อาศัยคลายร้อน ในขณะเดียวกัน หากไม่รู้ถึงโทษของสิ่งเหลานี้
ก็จะทำให้เกิดอันตรายจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น
การที่เด็กๆเพ่งมองดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงแรงจ้า ก็จะเป็นอันตรายแก่สายตา
หรือการที่ปล่อยให้แสงแดดแผดเผาผิวกาย ก็เป็นอันตรายต่อผิวหนังคือ
เกิดแผลไหม้เกรียม แสงอาจเกิดจากการเผาไหม้ของวัตถุเช่น เทียน แก๊ส น้ำมัน พืช
แสงเหล่านี้อาจเกิดการเผาไหม้เองตามธรรมชาติ และเกิดจากมนุษย์ทำให้เกิด
เมื่อเกิดแล้ว จะทำให้มลภาวะเป็นพิษในโลกนี้ ดังนั้น
ธรรมชาติเรื่องแสงและเงาเป็นเรื่องใกล้ตัว อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา
จึงควรได้จัดประสบการณ์ให้แก่เด็กปฐมวัย
การสอนเรื่องแสงและเงาสำคัญเพราะ แสงสว่างและเงา เป็นเรื่องที่เด็กเห็นว่าเกิดขึ้นในชีวิต เป็นความจริงว่ามีอยู่
จึงเป็นเรื่องที่ควรสอนให้รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร ในหลัก
สูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศ้กราช 2546 ได้กำหนดสาระที่ควรเรียนรู้
เรื่องธรรมชาติรอบตัวไว้ให้เด็กเรียน และกล่าวถึงแนวคิดที่ควรเกิด
หลังจากเด็กเรียนรู้ธรรมชาติว่ามีอะไร เราพึ่งพาสิ่งเหล่านั้นเพื่อการดำรงชีวิตอย่างไร
สิ่งเหล่านั้นมีรูปร่าง ลักษณะอย่าง ไร ให้คุณและโทษอย่างไร
เรามีเหตุผลอะไรที่ควรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไว้ นอกจากนี้
การเรียนรู้ธรรมชาติรอบตัวเป็นการส่ง เสริมการเรียนวิทยาศาสตร์ให้แก่เด็กปฐมวัย
เพราะวิทยาศาสตร์เป็นวิชาที่สืบค้นหาความจริงเกี่ยวกับธรรมชาติ โดยใช้กระบวน
การแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ วิธีการทางวิทยาศาสตร์
เพื่อให้เด็กได้เกิดความตระหนักรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกรอบๆตัวเขา
เป็นการเกิดความรู้ที่เป็นประสบการณ์ตรง ขณะเดียวกัน เมื่อเด็กเรียนวิทยาศาสตร์
เด็กจะได้รับการพัฒนาคุณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น